ข่าวเด่น » 10 ประเทศที่ปลอดภัยสำหรับคุณ..หากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น

10 ประเทศที่ปลอดภัยสำหรับคุณ..หากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น

22 กันยายน 2017
1231   0

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. เกาหลีเหนือ ได้มีการยิงขีปนาวุธ จากฐานยิงจรวดย่านซูนัน ในกรุงเปียงยาง ไปตกในหาสมุทรแปซิฟิกอีกครั้ง โดยเป็นการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งในครั้งนั้นส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 6.3 ริกเตอร์ ด้านสำนักข่าวฮยอนฮัพ ของเกาหลีใต้ รายงานว่า ขีปนาวุธ พุ่งไปด้วยความเร็ว 770 กม. และพุ่งไปไกลถึง 3700 ก.ม. ส่วนกองทัพเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา กำลังวิเคราะห์รายละเอียดและแนวทางในการป้องกัน ตลอดจนแจ้งเตือนเฝ้าระวังภัยขั้นสูงสุด นอกจากนี้ มีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้มีการเรียกประชุมฉุกเฉินทันที หลังจากเกาหลีเหนือได้มีการทอดสอบขีปนาวุธ เพื่อพิจารณามาตรการตอบโต้ด้วย แม้ว่าเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้น อาจจะดูห่างไกลที่จะเกิดขึ้น แต่เมื่อลองพิจารณาถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ หรือแม้แต่สงครามระหว่างศาสนาก็ตาม

สิ่งเหล่านี้อาจจะบานปลายจนนำไปสู่สงครามโลกขึ้นมาแต่ยังมี 10 ประเทศที่คาดว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย ดังนี้..

 

1. Switzerland สำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นประเทศที่ถูกล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงใหญ่มากมาย ซึ่งนั้นก็เพียงพอสำหรับการป้องกันข้าศึกยามเกิดสงคราม และนอกจากนี้การเตรียมการสำหรับที่หลบภัยของผู้คนในประเทศก็ถือว่าพร้อมและสมบูรณ์แบบทีเดียว

2. Tuvalu หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อประเทศนี้สักเท่าไหร่ เพราะเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางมหาสมุทธแปซิฟิคนอกจากนี้ก็ยังมีประชากรและทรัพยากรทางธรรมชาติไม่มาก ทำให้ไม่เหมาะแก่การเดินทางมาเพื่อยืดครองหรือสู้รบแต่อย่างใด

3. New Zealand เป็นอีกประเทศที่มีภูมิทัศน์ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาสูงใหญ่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในยามศึกสงคราม นอกจากนี้ด้วยความที่ประเทศ นิวซีแลนด์นั้นไม่เคยเข้าร่วมสงครามความขัดแย้ง หรือเอนเอียงไปทางฝ่ายใดเลย ทำให้เป็นประเทศที่ค่อนข้างห่างไกลจากการเกิดสงครามโลก

4. Bhutan ประเทศที่เรียกได้ว่าถูกปิดล้อมด้วยเทือกเขาโดยสมูบรณ์แบบซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการหลบภัยสงคราม ที่สำคัญก็คือเป็นประเทสที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ทางการทูตกับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาเลย

5. Chile ใครที่คิดจะเข้ายึดครองดินแดนของประเทศชิลีนั้น คงต้องคิดให้ดีก่อน ด้วยความที่ชายแดนของประเทศนั้นถูกล้อมด้วยเทือกเขาที่มีความยาวที่สุดในโลกอย่าง เทือกเขาแอนดีส ซึ่งนั้นคงไม่เหมาะแน่หากจะนำกองทัพทหารเข้ารุกรานประเทศชิลี

6. Iceland ประเทศไอซ์แลนด์ถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีความสงบสุขอันดับ 1 ของโลกที่สำคัญคือการเป็นกลางที่สุดในเรื่องการเมือง ทำให้ประเทศนี้ไม่ถูกจับตาในด้านการทำศึกสงคราม ยิ่งไปกว่านั้นคือประเทศแห่งนี้มีประชากรเพียงสามแสนคนและไม่มีกองทัพเป็นของตนเองอีกด้วย

7. Greenland เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ด้วยความที่ประเทศนี้ถูกรายล้อมไปด้วยทะเลแถมชายฝั่งก็ยังมีอุณหภูมิต่ำอยู่ตลอดเวลาเรียกว่าความหนาวเย็นนั้นยากเกิกว่าที่จะใช้เวลาอยู่ได้นานๆ เลยทีเดียว

8. Malta ประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กโดยซึ่งมีลักษณะคล้างเกาะขนาดเล็ก มีประชากรอาศัยอยู่ไม่มาก การเข้ายึดครองที่นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากทรัพยากรที่มีอยู่น้อยนิดคงไม่เหมาะต่อการศึกสงคราม

9. Ireland อีกหนึ่งประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกับองค์การ Nato ซึ่งในเรื่องของการศึกสงครามนั้น ไอร์แลนด์ก็จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทหารกับประเทศใดเลย นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะอยู่ใจกลางมหาสมุทธแอตแลนติกอีกด้วย

10. Fiji พื้นที่โดยรวมของประเทศนั้นเป็นเกาะแก่งและห้อมล้อมด้วยทะเลจึงทำให้เดินทางเข้าถึงได้ยาก นอกจากนี้พื้นที่ภายในประเทศยังไม่ใช่ลักษณะเป็นผิวเรียบ ทำให้การตังแคมป์หรือเตรียมรับมือกับสงครามคงเป็นไปได้ยาก นอกจากนี่ทรัพยากรในประเทศก็มีไม่มากอีกด้วย
ทั้ง 10 ประเทศก็เป็นประเทศที่มีโอกาสในการเข้าร่วมกับสงครามโลกได้น้อยมากทีเดียว แต่ทั้ง 10 ประเทศก็ล้วนแต่เป็นประเทศที่สวยงามสงบสุขน่าไปท่องเที่ยวดูสักครั้งเช่นกัน

ขอบคุณ http://www.springnews.co.th/th/2017/09/99433/?sp