โป๊ะเช๊ะ ดอท คอม

ทั้งโลกติดเชื้อโควิดทะลุ 270 ล้านคน! ตามไปดู 4 กลุ่มที่เสี่ยงน้อยติด ‘โอมิครอน’

โควิดทั้งโลกติดเชื้อทะลุ 270 ล้านคน! ตามไปดู 4 กลุ่มที่เสี่ยงน้อยติด ‘โอมิครอน’

13 ธ.ค. 2564 – รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทะลุ 270 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 431,192 คน ตายเพิ่ม 3,970 คน รวมแล้วติดไปรวม 270,411,314 คน เสียชีวิตรวม 5,321,716 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อเมริกา แอฟริกาใต้ และรัสเซีย จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 87.34 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 92.29

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึงร้อยละ 60.48 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 56.27 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก

สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 3,787 คน สูงเป็นอันดับ 20 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,108 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 17 ของโลก ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย

…ภาพรวมทั่วโลก ฝั่งยุโรป European Centre for Disease Prevention and Control (ECDC) อัปเดตสถานการณ์เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 พบว่ามีการรายงานเคสติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ไปแล้ว 25 ประเทศ

ประเทศที่มีจำนวนเคสสะสมมากเป็น 3 อันดับแรกคือ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และเยอรมัน การระบาดใน Nordic countries นั้นหนัก ติดกันวันละหลายพันและขึ้นเป็น exponential ยกเว้นในไอซ์แลนด์ที่ยังทรงๆ ที่ร้อยกว่ารายต่อวัน

ในขณะที่แอฟริกาใต้ เอสวาตินี่ (เดิมชื่อ Swaziland) รวมถึงสหราชอาณาจักร ก็เผชิญการระบาดของ Omicron อย่างรวดเร็ว ส่วนแถบเอเชีย จะสังเกตว่าเวียดนามและเกาหลีใต้ก็พุ่งขึ้นในลักษณะเดียวกัน

สำหรับไทยเรา พิจารณาตามปัจจัยเสี่ยงต่อการระบาด จะพบว่าสถานการณ์ปัจจุบัน แม้จำนวนการติดเชื้อใหม่แต่ละวันที่รายงานจะลดลง แต่อันดับโลกไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก

นอกจากนี้การเปิดประเทศ เปิดกิจการกิจกรรมท่องเที่ยว และการดำเนินชีวิตต่างๆ ทำให้มีการพบปะสังสรรค์ สัมผัสระหว่างกันมากขึ้น นานขึ้น ความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทุย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

และชัดเจนว่า วัคซีนที่เคยฉีดนั้นไม่เพียงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการโดยสายพันธุ์ Omicron ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันที่ไม่สูงเท่า mRNA vaccines

ข้อมูลจากงานวิจัยระดับสากลที่ออกมาในปัจจุบัน ทำให้เราทราบได้ว่า หากจะเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการระบาดของ Omicron มีดังนี้..

กลุ่มที่ฉีดวัคซีน mRNA 3 เข็มแล้ว

กลุ่มที่ฉีด Az 2 เข็ม และกระตุ้นด้วย mRNA vaccine

กลุ่มที่ติดเชื้อมาก่อน และได้รับ mRNA vaccine เป็นเข็มกระตุ้น

และกลุ่มที่ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดมาก จนไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเลย

4กลุ่มเหล่านี้คือกลุ่มที่จะสามารถลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อแบบมีอาการจาก Omicron หากมีการระบาดขึ้นมาในประเทศ

นอกเหนือจากที่บอกไว้ข้างต้น ยังไม่มีข้อมูลวิชาการเพียงพอที่จะบอกได้ว่าภูมิที่มีนั้นเพียงพอในการป้องกัน Omicron ได้หรือไม่ และควรประพฤติปฏิบัติเสมือนกลุ่มที่ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดมาก จนไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คงจะดีที่สุด

ใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตรอย่างเป็นกิจวัตร…พฤติกรรม 2 อย่างนี้ คงต้องทำกันไปอย่างยาวนานจนเป็นนิสัย

เพราะถึงจะมีข้อมูลเรื่องวัคซีนข้างต้น แต่จะเห็นว่า ที่น่าเป็นห่วงมากคือ ลูกหลานของเราที่อาจยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันได้อย่างเต็มที่ และข้อมูลความรู้ก็ยังไม่กระจ่างดีสำหรับประชากรวัยเด็ก.

ขอบคุณhttps://www.thaipost.net/covid-19-news/44011
https://www.google.com/search?q=%E0%B9%82%E0..

ฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็มแล้วก็เอาไม่อยู่! ไทยเจอติดเชื้อโอมิครอน รายที่ 4 เพิ่งกลับมาจากคองโก