• จำนวนเรือบรรทุกน้ำมัน: โดยเฉลี่ยมีเรือบรรทุกน้ำมันประมาณ 15 ลำ ผ่านช่องแคบฮอร์มุซต่อวัน

  ปริมาณน้ำมัน: ปริมาณน้ำมันที่ขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซเฉลี่ยอยู่ที่ 20.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2566 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของการบริโภคน้ำมันทั่วโลก

  ข้อมูลอาจมีความผันผวนเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแหล่งข้อมูลและช่วงเวลา เช่น บางแหล่งระบุปริมาณน้ำมันอยู่ที่ 16.5-17 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ตัวเลข 20.9 ล้านบาร์เรลต่อวันจาก EIA (สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ) เป็นค่าที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในปีล่าสุด

1. ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์:
   • ช่องแคบฮอร์มุซตั้งอยู่ระหว่าง อิหร่าน (ทางเหนือ) และ โอมาน (ทางใต้)
   • ด้านตะวันตกเฉียงเหนือติดกับอ่าวเปอร์เซีย ด้านตะวันออกเฉียงใต้ติดกับอ่าวโอมาน
   • พิกัดโดยประมาณ: ละติจูด 26.5° เหนือ ลองจิจูด 56.5° ตะวันออก
2. ความกว้างและความลึก:
   • ความกว้างของช่องแคบประมาณ 33-96 กิโลเมตร (21-60 ไมล์) โดยจุดที่แคบที่สุดอยู่ที่ประมาณ 33 กิโลเมตร
   • ความลึกเฉลี่ยประมาณ 50-200 เมตร ทำให้เหมาะสำหรับการเดินเรือขนาดใหญ่ เช่น เรือบรรทุกน้ำมัน
3. ความสำคัญทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์:
   • ช่องแคบนี้เป็นเส้นทางหลักสำหรับการขนส่งน้ำมันจากประเทศผู้ผลิตในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย อิรัก คูเวต และอิหร่าน ไปยังตลาดโลก
   • ประมาณ 20-30% ของน้ำมันดิบที่ซื้อขายทั่วโลก และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จำนวนมากผ่านช่องแคบนี้
   • เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในด้านการทหารและการเมือง เนื่องจากความขัดแย้งในภูมิภาคอาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก
4. เกาะและจุดสำคัญ:
   • เกาะสำคัญในช่องแคบ ได้แก่ เกาะ Qeshm (ของอิหร่าน) และ เกาะ Hormuz ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการเดินเรือ
   • เมืองท่าสำคัญใกล้เคียง เช่น Bandar Abbas (อิหร่าน) และ Muscat (โอมาน)
5. ความท้าทาย:
   • ช่องแคบนี้มักเผชิญกับความตึงเครียดทางการเมืองและการทหาร เช่น การเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก หรือเหตุการณ์โจมตีเรือน้ำมัน
   • การควบคุมช่องแคบนี้มีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของโลก

เจาะลึกความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมของ B-2 Spirit หนึ่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีความฉลาดและร้ายกาจที่สุดในโลก