ใครโกหก ? ดาราไต้หวันโต้ไม่ได้เมา..แต่คนขับรถในไทยแฉกลับคนละม้วน
ดาราไต้หวัน ฟาดกลับตำรวจไทย ลั่นไม่ได้ดื่ม หลังถูกกล่าวหาว่าเมา ลั่นให้ชี้ตัวตำรวจที่รีดไถเงินไปก็ได้ เพราะจำไม่ลืม แซะถ้าจ่ายเงิน 7,000 บาท นำขบวน VVIP คงไม่ต้องปวดหัว..
จากกรณี อันยู๋ชิง (Charlene An) ดาราสาวชาวไต้หวัน ได้โพสต์อินสตาแกรมซึ่งแปลได้ว่า ลาก่อน กรุงเทพห่วย ๆ ! หลังจากเจอประสบการณ์สุดเลวร้ายตำรวจไทยรีดไถเงิน ต่อมาทางตำรวจไทยอ้างว่า ดาราสาวและเพื่อนในกลุ่มพกบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผิดกฎหมาย และมีการระบุว่า โชเฟอร์ให้ปากคำว่า ดาราสาวมีอาการมึนเมามาก..
27 มกราคม 2566 สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง รายงานว่า คนขับแกร็บ ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ตนได้รับการเรียกให้ไปรับผู้โดยสารบริเวณหน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่าน RCA เวลาประมาณตี 2 กว่า เพื่อมาส่งยังจุดหมายปลายทางโรงแรมย่านห้วยขวาง..
ซึ่งกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 3 หญิง 1 มีผู้ชายคนหนึ่งพอจะพูดภาษาไทยได้ พูดจาโมโหใส่อารมณ์ตวาดใส่ตน และเมื่อขึ้นรถมาเห็นได้ทันทีเลยว่ามีอาการมึนเมา กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากจนต้องขับรถเปิดกระจก และตนจำผู้หญิงคนนี้ได้แม่น เพราะเมาแล้วโวยวายเสียงดังที่สุดในรถ
เมื่อกลุ่มผู้โดยสารเดินขึ้นรถ ตนได้วิ่งตามเส้นทาง GPS จากย่าน RCA มาตามทางเส้นพระราม 9 ก่อนจะมาเลี้ยวซ้ายเข้า อสมท. มาตามถนนรัชดา ก่อนจะมาเจอด่านตรวจที่หน้าสถานทูตจีน จากนั้นได้มีตำรวจเรียกขอตรวจ ตนก็เปิดไฟในรถ ตำรวจก็ว่าจะไปไหนตนก็บอกไปว่าเป็นแกร็บ ตำรวจก็บอกว่าขอตรวจเช็กผู้โดยสาร และหันไปพูดภาษาอังกฤษกับผู้โดยสารว่า Police Check ซึ่งตอนนั้นผู้หญิงมีอาการไม่พอใจชัดเจน ไม่อยากให้ตรวจค้นและเมาด้วย ตำรวจก็พยายามเชิญลงจากรถ ผู้โดยสารก็ทำทีท่าไม่อยากลง แต่สุดท้ายก็ลง..
ซึ่งระหว่างที่ตรวจค้น มีตำรวจเข้ามาตรวจค้นทั้งหมด 3 นาย โดยตำรวจได้ให้ผู้โดยสารเปิดกระเป๋า และส่องไฟฉายลงไปให้ผู้โดยสารเป็นคนรื้อกระเป๋าให้ดูเอง ไม่ได้แตะต้องข้าวของ และแตะตัวเฉพาะผู้โดยสารผู้ชายเท่านั้น ใช้เวลาตรวจค้นนานประมาณ 30 นาที โดยตนไม่ค่อยได้หันไปมอง จะหันไปเฉพาะเวลาได้ยินเสียงผู้หญิงโวยวายเป็นภาษาจีนเสียงดังใส่ตำรวจ และมีพยายามจะพูดภาษาไทยด้วย ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และก็ไม่ว่ามีการพยายามจะถ่ายคลิป จากนั้นผู้โดยสารผู้ชายที่พูดไทยได้เดินมาหาตนแล้วจ่ายเงิน 80 บาท แล้วก็บอกให้ไป ตนยังคิดอยู่เลยว่าขาดทุน เพราะค่าโดยสาร 89 บาท แต่ก็ขับรถออกมา ขอยืนยันว่าระหว่างที่จอดรถอยู่ในด่าน ตนไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ ตำรวจตรวจค้นปกติ ส่วนผู้โดยสารมีบุหรี่ไฟฟ้าจริงหรือไม่ ตนไม่ได้สังเกต
อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวตนก็รู้สึกคุ้นหน้านักท่องเที่ยวหญิงจึงมาเปิดดูในไทม์ไลน์แอปพลิเคชั่น ซึ่งส่วนมากตนจะจำลูกค้าประเภทที่เมาโวยวายได้แม่น เลยคิดว่าใช่แน่ พอตำรวจเรียกมาจึงให้ความร่วมมือ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวหญิงให้ข่าวเกินไป ทำให้เสียภาพพจน์ประเทศไทย ส่วนที่เจ้าตัวออกมาชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าไม่ได้ดื่ม ตนยืนยันได้ว่า เมา 100% อยากให้ออกมาพูดความจริง ก็ให้สังคมตัดสินว่าจะเชื่อคนเมาหรือคนไม่เมา ส่วนกล้องหน้ารถตนบันทึกเสียงได้ แต่ไฟล์ภาพถูกลบไปแล้ว เพราะตนจะฟอร์แมตทุก 7 วัน แต่ก็ได้นำเมมโมรี่การ์ดให้ตำรวจนำไปตรวจสอบแล้ว..
ขณะที่ เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว ได้มีการแปลข้อความจากดาราไต้หวัน ซึ่งโพสต์ในอินสตาแกรมโต้กลับคำให้การของคนขับรถที่อ้างว่าเธอเมาว่า ที่ทางตำรวจกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง
– เธอไม่ได้ดื่ม ตอนนี้ตำรวจไทยพยายามเบี่ยงเบนใช้ประโยชน์ฉัน เพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง
– เธอสามารถชี้ตัวตำรวจที่เอาเงินไปได้ เพราะว่าจำไม่มีวันลืม
– ท้าให้ตำรวจเอาภาพ CCTV ออกมา พร้อมกับบอกว่า ตอนนี้ตำรวจมาโยนความผิดใส่ ซึ่งมีคนอ้างว่าเป็นตำรวจติดต่อมาเยอะมาก ซึ่งเธอจะคุยกับตำรวจสากลและสื่อไต้หวันเท่านั้น
– พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ครั้งหน้าหากฉันจ่าย 7,000 บาท นำขบวน คงไม่ต้องมานั่งปวดหัว