เกษตร » ‘ชวน’แนะปลูกสะตอพันธุ์ตรัง1 เตือนชาวสวนยางอย่าสร้างความหวังกับ ‘ราคา’

‘ชวน’แนะปลูกสะตอพันธุ์ตรัง1 เตือนชาวสวนยางอย่าสร้างความหวังกับ ‘ราคา’

29 สิงหาคม 2017
2814   0

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php

ในเฟซบุ๊ค นาย สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ว่า สะตอ พันธุ์ตรัง1มีคุณสมบัติพิเศษคือ

1.ใช้เวลาปลูกเพียง3ปี ก็สามารถให้ผลผลิตได้แล้ว(ปกติ4-7ปี)
2.ลำต้นไม่สูงมาก(ปกติต้นสะตอสูงมาก)
3.ฝักแน่น ฝักตรง
4.ผลผลิตออกนอกฤดูกาล

ซึ่งขณะนี้ศูนย์ฯได้ผลิตต้นกล้าจากเมล็ดและการติดตาเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกร ได้ไปปลูกเพื่อเสริมรายได้ให้กับครอบครัว..

กลางปีที่ผ่านมา นาย ชวน หลีกภัย , นาย กิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ,นาย สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส ตรัง ได้เดินทางไปเยี่ยม และติดตามผลการวิจัยสะตอสายพันธ์ใหม่”พันธุ์ตรัง1″ที่ศูนย์วิจัยสวนตรัง อ.สิเกา จ.ตรัง นับเป็นผลผลิตทางการเกษตรใหม่ที่น่าสนใจทั้งต่อเกษตรกร และ ผู้บริโภคที่นิยม และ รักจะบริโภคสะตอ

 

ลักษณะของสะตอพันธุ์ตรัง 1

ลำต้นตรงยาว, ดอกจะมีลักษณะเป็นหัวโม่ง เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุ 3 ปี หลังจากที่ปลูก (ต้นติดตา) ลักษณะของฝักตรงกว้าง 4 เซนติเมตร ยาว 40 เซนติเมตร มีเมล็ดเฉลี่ย 16 เมล็ดจะเฉลี่ยอยู่ที่ 16 เมล็ดต่อฝัก  ตรงกว้าง 4เซนติเมตร ยาว 40 เซนติเมตร มีเมล็ดเฉลี่ย 16 เมล็ดต่อฝัก ลักษณะของเมล็ด จะมีขนาดเรียงชิดติดกันตลอดฝัก โดยปกติ เมื่ออายุ 10 ปี ต้นจะสูงเฉลี่ยต่อต้น 5 เมตร ขนาดของทรงจะเป็นพุ่มประมาณ 8 เมตร ให้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 500 ฝัก ต่อต้นต่อปี โดยสามารถให้ผลผลิตมากกว่า 1 ครั้งในรอบปี คือจะให้ผลผลิตทั้งในฤดูระหว่างเดือน พฤษภาคม-ตุลาคม และนอกจากฤดู เดือนพฤศจิกายน-เมษายน เนื่องจากสะตอพันธุ์ตรัง 1 จะไม่มีการผลัดใบหลังการให้ผลผลิต และมีจำนวนใบย่อยประกอบจำนวนมาก จึงถือว่าสามารถสังเคราะห์แสงได้ดี

ลักษณะพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูก

  • ควรจะเป็นในพื้นที่ภาคใต้ไม่มีน้ำท่วมขัง

ปัญหาในการปลูก

  • สะตอพันธุ์ตรัง 1 หากปลูกในระยะหนึ่งปีแรก ลำต้นจะมีลักษณะเลื้อยเอน ต้องมีการใช้ไม้ค้ำ ประคองลำต้นให้ตั้งตรง จากนั้นก็ควรที่จะตัดยอดให้เป็นพุ่มสมดุลกับลำต้น สิ่งที่จำกัดอีกสิ่งหนึ่งคือ ไม่ควรปลูกในพื้นที่น้ำท่วม เพราะจะทำให้โตช้า บางต้นอาจตายได้.

     สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับ สะตอพันธุ์ตรัง 1  สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง ราคาต้นละ40 บาท (แบบติดตา) โทร. 075 203394 ในวันเวลาราชการ.

ขอบคุณ:ข้อมูลจากเฟสบุค สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล
ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง

https://www.kasetkaoklai.com/home/2017..
http://www.tnews.co.th/contents/325203