เตือนภัย » เตือน4-8 ก.ย.60 คนกรุงเตรียมยกของหนีน้ำ ริมเจ้าพระยาเสี่ยงท่วม

เตือน4-8 ก.ย.60 คนกรุงเตรียมยกของหนีน้ำ ริมเจ้าพระยาเสี่ยงท่วม

1 กันยายน 2017
1954   0

ผู้ว่าฯ กทม. สั่งเฝ้าระวัง 4-8 กันยายน 2560 น้ำเหนือ-น้ำทะเลหนุนสูง ทำระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น เตือน ! เกือบ 500 ครัวเรือน เตรียมยกของหนีน้ำได้เลย

วันที่ 31 สิงหาคม 2560 มีรายงานว่า พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่า กรุงเทพมหานครได้รับหนังสือจากอธิบดีกรมชลประทาน เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ว่า หากช่วงนี้ไม่มีฝนตกหนักเพิ่มบริเวณ จ.นครสวรรค์, กำแพงเพชร, พิจิตร และ อุทัยธานี คาดว่าระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาจะไม่สูงขึ้นเกินกว่าระดับที่สามารถรับได้

อย่างไรก็ดีในช่วงระหว่างวันที่ 4-8 กันยายน จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง มีผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงตั้งแต่ จ.อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา และ ปทุมธานี เพิ่มสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร และหลังจากวันที่ 8 กันยายน เป็นต้นไป ก็จะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ดังกล่าว กทม. มีความห่วงใยประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งมีจำนวน 496 ครัวเรือน ในพื้นที่ 10 เขต ได้แก่ เขตบางซื่อ, ดุสิต, พระนคร, สัมพันธวงศ์, บางคอแหลม, ยานนาวา, คลองเตย, บางกอกน้อย, คลองสาน และเขตราษฎร์บูรณะ อาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จึงขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาขึ้น

นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้สำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมน้ำเจ้าพระยา จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดเตรียมยา เครื่องเวชภัณฑ์ และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที

สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น กทม. ได้ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ต่อเนื่องครบแล้ว ขณะเดียวกันทางสำนักการระบายน้ำยังได้วางกระสอบทรายไปแล้วประมาณ 100,000 ใบ ในจุดที่เป็นช่องว่าง เช่น บริเวณท่าเรือ อู่เรือ เพื่อป้องกันน้ำที่ทะลักเข้าเมื่อเกิดคลื่น นอกจากนี้ยังเตรียมกระสอบทรายไว้อีกกว่าแสนใบเพื่อใช้เสริมแนวในจุดที่อาจเกิดการรั่วซึมด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรุงเทพธุรกิจ