31ต.ค.2561 เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.5021 หน่วยเฉพาะกิจร.5 บ้านทับโกบ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ตรวจยึดแพะจำนวน 100 ตัว ซึ่งเป็นแพะที่ไม่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าหลายแสนบาท..
ร.อ.บุญทม หวานแก้ว ผบ.ร้อย ร.5021 บ.ทับโกบ อ.สะเดา จ.สงขลา ร่วมกับนายณรงค์ชัย ศศิธร ( หัวหน้าชุด ) สารวัตรกรมปศุสัตว์ นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่แนวริมรั้วชายแดนไทย – มาเลเซีย บริเวณหลักเขตแดนที่ 9 บ.ตะโล๊ะ ม. 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบค้าแพะผิดกฎหมาย ใช้สถานที่ดังกล่าวในการลำเลียงแพะออกไปยังประเทศมาเลเซีย
หลังจากที่เข้าปิดล้อมจุดดังกล่าวซึ่งเป็นสวนยางพารา มีแนวกำแพงและรั้วลวดหนาม แต่มีช่องทางที่สามารถเข้าออกได้ เจ้าหน้าที่พบแพะจำนวนมากถูกปล่อยอยู่ พร้อมมีผู้ชาย 4 อยู่ในที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็มีอาการตกใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ได้ทั้ง 4 คน พร้อมด้วยแพะทั้งหมดจำนวน 100 ตัว ไม่มีหลักฐานการจดทะเบียนเสียภาษี จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปยัง สภ.ปาดังเบซาร์ เพื่อทำการสอบสวน..
เบื้องต้นผู้ต้องหา 4 คน มี..
นายอับดุลเล๊าะ จิตรตรง อายุ 49 ปี
นายสราวุธ จิตรตรง อายุ 21 ปี อยู่ที่ 27 / 5 ม. 8 บ.ตะโล๊ะ
นายบุญส่ง ศรีปาน อายุ 51 ปี อยู่ที่ 2 / 4 ม.8 บ.ตะโล๊ะ
และนายพรายซูรี ดือราแม อายุ 27 ปี อยู่ที่ 52 / 1 ม.2 ต.ประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา
ยึดรถยนต์กระบะอีก2คัน และควบคุมตัวพร้อมแพะของส่งดำเนินคดีที่สภ.ปาดังเบซาร์
พันเอกวรเดช เดชรักษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี บอกว่าพฤติกรรมของกลุ่มผู้ลักลอบส่งแพะออกไปนอกประเทศ มีมานานแล้วซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามและสกัดกั้น จนเงียบหายไประยะหนึ่ง จากการสอบถามพบว่าแพะทั้งหมดถูกส่งมาจาก จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาพักไว้ที่คอกของชาวบ้านที่ร่วมลักลอบขนย้าย ซึ่งนายอับดุลเล๊าะ จิตรตรง 1 ในผู้ต้องหาบอกว่า พวกตนมีหน้าที่เพียงนำแพะไปยังจุดดังกล่าว เพื่อรอพ่อค้าทางมาเลเซียมารับ โดยได้ค่าแรงคิดเป็นตัวๆละ 50 บาท และไม่ทราบว่าจะมีความผิด ซึ่งจะทำการส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง..
นายณรงค์ชัย ศศิธร ( หัวหน้าชุด ) สารวัตรกรมปศุสัตว์ บอกว่าทั้งหมดมีความผิดตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เกี่ยวกับการนำเข้า – ส่งออก และเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแพะที่เป็นของกลางทั้งหมด กำลังเร่งประสานในการหาคอกเพื่ออายัดไว้ก่อน และจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งมูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณกว่า 4 แสนบาท
