สุขภาพ-ชีวิต » เผยทำไมจึงพบเชื้อโควิด 19 จากคนที่กักตัว 14 วันแล้ว ?

เผยทำไมจึงพบเชื้อโควิด 19 จากคนที่กักตัว 14 วันแล้ว ?

20 สิงหาคม 2020
994   0

เผยทำไมจึงพบเชื้อโควิด 19 จากคนที่กักตัว 14 วันแล้ว ?

หมอยง เผยความเป็นไปได้ 4 ปัจจัย กรณีพบเชื้อสำหรับคนที่พ้นการกักโรคไปแล้ว 14 วัน แต่ยืนยันว่า ซากเชื้อของหญิงที่ติดโควิด 19 นั้น ไม่ได้มาจากการติดเชื้อในประเทศแน่นอน..
สืบเนื่องจากวันที่ 20 สิงหาคม 2563 จากกรณีที่มีข่าวแตกตื่นว่า ตรวจพบคนไทยติดโควิด 19 ในประเทศ จนกลายเป็นเหตุแตกตื่นทั่ว ซึ่งทาง ศบค. ได้ออกมาแถลงว่า กรณีดังกล่าวนั้น มีหญิง 2 รายที่เข้าข่าย รายแรกเป็นการพบซากเชื้อ ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนอีกรายต้องรอผลแล็บ ลักษณะคล้ายรายแรก..
 ล่าสุด ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 4 ปัจจัยเรื่องการที่หญิงไทยทั้ง 2 มีซากเชื้อ ดังนี้..

         1. ระยะฟักตัวของโรค Covid-19 อยู่ที่ 2-7 วัน อาจพบได้ถึง 14 วัน และอาจมีโอกาสพบได้ถึง 21 วัน ดังนั้น คนที่ถูกกักตัวใน State Quarantine แล้ว 14 วัน จะมีการแนะนำให้ไปกักตัวต่อที่บ้านเพิ่มอีก 14 วัน

2. การตรวจพบหลังจากที่กักตัวครบ 14 วัน ก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการติดเชื้อขณะที่อยู่ในสถานกักกัน การอยู่ในสถานกักกันจึงต้องเคร่งครัด ไม่ให้มีการพบปะกัน ทั้งระหว่างคนที่กักตัว หรือบุคคลภายนอก

3. โอกาสที่ผู้ป่วยจะติดเชื้อในไทย เป็นไปได้น้อยมาก เพราะในไทยไม่มีผู้ติดเชื้อมาแล้วกว่า 80 วัน

4. คนนั้นอาจจะติดเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่พอมาไทยแล้วเชื้อน้อย จนตรวจไม่พบ แต่ต่อมากลับตรวจพบ

ก่อนหน้านี้ ได้มีการทำการศึกษากับ สำนักการแพทย์และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร พบว่า ผู้ที่ติด Covid 19 นั้น ก่อนออกจาก รพ. ก็ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่เมื่อติดตามอีก ก็พบว่าคนไข้มีเชื้อ แต่ปริมาณน้อยมาก ในจำนวน 212 ราย พบในช่วง 4-12 สัปดาห์ ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยร้อยละ 6.6 และเนื่องจากไวรัสที่พบนั้นน้อยมาก จึงไม่สามารถแพร่ไปยังคนอื่นได้

         “ดังนั้นการพบเชื้อดังกล่าว ผู้ป่วยไม่มีอาการ รวมทั้งการตรวจปริมาณไวรัส ถ้ามีเป็นจำนวนน้อย โอกาสที่จะแพร่กระจายโรคไปสู่ผู้อื่นก็น้อยมาก ๆ ดังข้อมูลในการระบาดรอบแรก ที่เราได้ทำการศึกษาถึงแม้จะตรวจพบเชื้อ ก็ไม่พบว่าแพร่กระจายไปสู่ผู้ใดเลย”