ยูทูป » อบต.ทั่วประเทศส่อถังแตก หลังเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า..งดทัศนศึกษา,อาจให้พนักงานบางส่วนออก ฯ

อบต.ทั่วประเทศส่อถังแตก หลังเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า..งดทัศนศึกษา,อาจให้พนักงานบางส่วนออก ฯ

30 สิงหาคม 2020
1127   0

ยะลา- นายกเทศมนตรีนครยะลา เผยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศใกล้ถังแตก หลังพบปัญหาจัดเก็บรายได้จากนโยบายของรัฐ แนะรัฐบาลเร่งแก้ไขด่วนก่อนท้องถิ่นจะล้มละลาย..

“..อบต.ทั่วประเทศใกล้ถังแตก และในหลายเทศบาลที่ไม่มีเงินสำรอง ก็อาจจะต้องมีการปลดพนักงาน หรือชะลอการรับโอนข้าราชการ.. “

28 ส.ค.63 ที่สำนักงานเทศบาลนครยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเริ่มประสบปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะ อบต. และเทศบาล เนื่องจากที่มาของรายได้จะมาจาก 3 ทางคือ ..

1.ภาษีโรงเรือน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเป็นกฎหมายที่ดินและสิ่งก่อสร้าง

2.ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บแล้วแบ่งให้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต

3.ส่วนที่เป็นเงินอุดหนุน

ซึ่งรายได้ทั้ง 3 ส่วนเกิดปัญหาทั้งหมดเช่น ภาษีโรงเรือนซึ่งที่ผ่านมาเทศบาลจัดเก็บเอง รัฐบาลก็ไปสั่งยกเลิกกฎหมายเก่าแล้วไปออก พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งก่อสร้างใหม่ โดยใช้เหตุผลว่าจะทำให้มีรายได้กับทางเทศบาล และ อบต.มากขึ้น แต่ในการปฎิบัติได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนเป็นอย่างมากรัฐบาลจึงได้สั่งชะลอ จึงทำให้เทศบาล และ อบต. ไม่สามารถเก็บรายได้มาประมาณ 2 ปี และเพิ่งจะมีคำสั่งให้จัดเก็บได้ในเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

และรัฐบาลก็ได้สั่งให้ลดภาษีเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เนื่องจากอยู่ในช่วงโควิด-19โดยให้ลดภาษี 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เข้าท้องถิ่นรายได้ที่ท้องถิ่นเก็บเองก็แทบจะหายไปเลย

ในส่วนของรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งมาให้ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ในเดือนสิงหาคมนี้รัฐบาลโอนมาให้ลดไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยได้เดิมซึ่งเทศบาล และอบต.ทั่วประเทศก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันเช่นเดียวกับภาษีสรรพสามิตก็หายไป จากกรณีการระบาดโควิด19 และในส่วนของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลให้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินที่ท้องถิ่นไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ เพราะเป็นเงินที่จะต้องใช้จ่ายตามที่รัฐบาลกำหนดไว้..

 

ในปีงบประมาณ 2564 คาดว่ามีปัญหาแน่นอนเพราะเงินจะหายไปเยอะมาก เช่น เทศบาลนครยะลา มีนักเรียนที่จะต้องดูแลค่าอาหารกลางวัน เงินในส่วนนี้ถูกตัดหายไปกว่า 1 พันคน รวมทั้งในเรื่องของนมโรงเรียน ที่เป็นเรื่องสำคัญมาก วันนี้นมโรงเรียนที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณให้เทศบาลนครยะลา ขาดไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงเงินผู้สูงอายุก็จะไม่เพียงพอ เงินอุดหนุนเหล่านี้เฉพาะเทศบาลนครยะลา หายไปเกือบ 70 ล้านบาท

หากทางรัฐหวังว่าจะให้เทศบาลฯนำเงินสะสมของเทศบาลไปจ่ายไม่สามารถทำได้เพราะ เงินสะสมที่ทางเทศบาลเก็บเอาไว้ได้มาจากเงินที่เหลือจากการประกวดราคาต่างๆ นำมาสะสมเอาไว้ เพื่อใช้ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน และเมื่อสะสมได้เงินก้อนโตขึ้นมาก็จะสามารถนำไปโครงการขนาดใหญ่ที่สามารถพลิกเมืองได้ดังนั้นหากให้นำเงินสะสมของเทศบาลออกมาใช้ เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม นอกจากนี้ยังมองว่าทุกวันนี้รัฐบาลพยายามผลักภาระให้กับท้องถิ่น ซึ่งรัฐควรที่จะสนับสนุนจัดสรรงบให้ได้ตามนโยบายของรัฐเอง..

ส่วนการแก้ไขในเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลจะต้องปลดล็อคกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในเรื่องการใช้จ่ายเงินสะสม เพราะวันนี้ถึงแม้จะมีเงินแต่ก็นำไปใช้ไม่ได้ เพราะถูกกันเอาไว้ จะต้องคลายล็อคก่อน รวมทั้งขณะนี้รัฐบาลได้ออก พรก.เงินกู้ เงินส่วนนี้ควรจะนำมาอุดหนุนท้องถิ่นเฉพาะในส่วนที่เป็นนโยบายของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น อาการกลางวันเด็ก นมโรงเรียน เงินผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนพิการ ที่รัฐควรจะดูแลก่อน รวมถึงอยากเสนอให้รัฐบาลควรจะมีการปฎิรูประบบราชการทั้งหมดเพราะหลายอย่างมีความซ้ำซ้อนของระบบค่อนข้างมาก ซึ่งหากปล่อยไปแบบนี้เชื่อว่าในปีนี้จะมีหลายๆเทศบาล หรือ อบต.จะไม่มีเงินจ่ายพนักงาน

ที่มา https://www.nationtv.tv/main/content/378792803/
https://www.google.com/search?newwindow=1&safe..