เตือนภัย » พม่านับแสน จ่อทะลักไทย!! แนะรัฐเปิดช่องนำเข้าดีกว่าลักลอบ

พม่านับแสน จ่อทะลักไทย!! แนะรัฐเปิดช่องนำเข้าดีกว่าลักลอบ

20 ธันวาคม 2020
817   0

พม่านับแสน จ่อทะลักไทย!! แนะรัฐเปิดช่องนำเข้าดีกว่าลักลอบ

แรงงานพม่านับแสน จ่อทะลักไทย แนะรัฐจัดระบบให้รัดกุม เปิดช่องนำเข้าดีกว่าปล่อยให้ลักลอบ นักวิชาการจี้ทางการเปลี่ยนทัศนคติเชิงลบ

19 ธ.ค.63 ที่สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย มีเวทีเสวนาเนื่องในวันย้ายถิ่นสากลจังหวัดเชียงราย โดย นายสืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการศูนย์วิจัยนวัตกรรมสังคมเชิงพื้นที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า แรงงานข้ามชาติ ในเชียงรายมีอยู่ประมาณ 2.4 หมื่นคน ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ไม่รวมเด็กและผู้สูงอายุซึ่งทางการไม่นับเป็นแรงงาน และยังไม่นับรวมแรงงานที่ไม่มีเอกสาร

“ช่วงแรกที่โควิดระบาดมีแรงงานพม่าจำนวนมากที่ต้องการกลับประเทศไปกองอยู่ตามวัด ก็ได้เครือข่ายภาคประชาชนเข้าไปช่วยเหลือบริจาคสิ่งของและอาหารการกิน เพราะพวกเขาไม่ได้รับการบริจาคจากภาครัฐเลย รัฐบาลไทยพยายามปิดพรมแดนเพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบเข้ามาโดยคิดว่าโควิดเป็นภัยความมั่นคงจึงให้ทหารไปคุม แต่จริงๆแล้วต้องใช้ภาคประชาชนเฝ้าระวังจะได้ผลดีกว่าหรือไม่”นายสืบสกุล กล่าว

นักวิชาการศูนย์วิจัยนวัตกรรมสังคมเชิงพื้นที่ กล่าวด้วยว่า แรงงานข้ามชาติมีความเสี่ยงมากเรื่องสุขภาพเพราะไม่ได้รับแจกแอลกอฮอล์ล้างมือหรือหน้ากากอนามัยจากภาครัฐ เพราะลึกๆยังถูกมองว่าแรงงานข้ามชาติเป็นภัยต่อความมั่นคงและเข้ามาแย่งงานคนไทย และพยายามสร้างภาพลบให้แรงงานข้ามชาติ

ทั้งๆที่ความจริงคนที่เอาเชื้อเข้ามาคือคนไทยเอง ดังเห็นได้จากคนที่หลบหนีเข้ามาจากชายแดนเชียงราย เช่นเดียวกับที่มีคนไทยติดโควิดที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่พยายามเชื่อมโยงไปถึงแรงงานข้ามชาติ ที่สำคัญรัฐบาลก็ยังเน้นให้ความช่วยเหลือคนไทย ทั้งๆที่ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็ติดโควิดได้ เหมือนๆกัน จึงควรช่วยเหลือคนทุกชาติ ดังนั้นจึงมีข้อท้าทายว่าแรงงานข้ามชาติจะอยู่ต่อในสังคมไทยอย่างไร?

นายอดิศร เกิดมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ กล่าวว่าถึงกรณีพบผู้ป่วยโควิดที่จังหวัดสมุทรสาครว่า ระบบดูแลด้านสุขภาพแรงงานข้ามชาติของไทยดีพอสมควร ดังนั้นจึงต้องค้นหาว่าผู้ป่วยรายนี้ติดโควิดมาจากไหน ที่เป็นปัญหาเพราะเป็นโซนที่มีแรงงานข้ามชาติจำนวนมากและมีความแออัด ทำให้ส่งผลต่อยอดขายอาหารทะเล ขณะเดียวกันควรมีการตรวจสอบว่าแรงงานข้ามชาติยังมีหลักประกันสุขภาพอยู่หรือไม่ หากไม่มีก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐ โดยคาดว่ามีแรงงานข้ามชาติจำนวนกว่า 1 ล้านคนที่ไม่เข้าระบบประกันสังคม

นายอดิศร กล่าวว่า ประเด็นที่น่ากังวลใจสำหรับแรงงานข้ามชาติคือเมื่อรัฐบาลยังไม่มีมาตรการให้แรงงานข้ามชาติที่เดินทางกลับสู่ประเทศต้นทางก่อนหน้านี้ข้ามกลับเข้ามา จึงทำให้เกิดการลักลอบเข้ามาเพราะในประเทศต้นทางไม่มีงาน ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงในพม่า พวกเขาจึงหลบนี้กลับคืนสู่ประเทศไทย

..นอกจากนี้ยังมีแรงงานข้ามชาติกลุ่มที่เข้ามารับจ้างตามฤดูกาล เช่น การปลูกอ้อยในภาคตะวันออก หรือการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรในภาคตะวันตก ดังนั้นแทนที่จะปล่อยให้พวกเขาแอบเข้ามา รัฐควรจัดทำระบบให้ดี คาดว่าขณะนี้มีแรงงานจากฝั่งพม่ารอกลับเข้ามาประมาณ 1 แสนซึ่งเป็นคนเก่า สิ่งที่รัฐต้องทำคือต้องพิจารณาเรื่องปิดชายแดนใหม่ เพราะการไม่ปล่อยให้เข้ามาเลย ยิ่งสร้างความเสียหาย แต่หากจัดระบบให้ดีขึ้น เช่น ทำให้ค่ากักตัวถูกลง ก็อาจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ดังนั้นรัฐต้องมีมาตการออกมาแก้ไข เราหวังว่าประเทศต้นทางจะเข้ามาขยายการต่ออายุหนังสือเดินทางให้ ถ้าไม่ได้จริงๆ รัฐบาลก็ควรขยายเวลาตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองให้เขาไปเลย เพราะทำให้เขาอยู่ได้ถูกต้อง ตอนนี้เรากำลังขาดแคลนแรงงานกว่า 2-3 แสนคน เพราะแรงงานข้ามชาติเก่ากลับบ้าน คนใหม่ก็เข้ามาไม่ได้ จึงทำให้เกิดการจ้างงานผิดกฎหมายจำนวนมาก รัฐควรมีการจดทะเบียนใหม่ที่มุ่งเน้นแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในประเทศ รวมถึงดึงแรงงานภายนอกเข้าสู่ระบบ”นายอดิศร กล่าว

ขณะที่ นายสนธยา รัตนวาณิชยกุล ประธานชมรม กรุณาจิตอาสา อำเภอแม่สาย ซึ่งทำงานให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ กล่าวว่าตามแนวชายแดนแม่สายซึ่งเป็นเส้นทางธรรมชาติของไทยและพม่ามีความเข้มงวดขึ้น โดยมีทหารคอยเฝ้าประจำการอยู่ หากมีการข้ามมาโดยไม่ถูกต้องจะถูกล็อกตัวทั้นที รวมทั้งตามหมู่บ้านต่างๆ หากมีคนแปลกหน้าเข้ามาจะต้องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หากไม่แจ้งก็จะถูกล็อกตัวเช่นกัน.

ขอบคุณ https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5561943
https://www.google.com/search?newwindow=1&safe=active&clien..