วัคซีนโควิด19 ได้ฉีดทั้งประเทศเมื่อไร? พบผลข้างเคียงเล็กน้อยแล้ว 5 ราย..

สธ. เปิดแผนกระจายวัคซีนโควิด 19 ยืนยันได้ฉีดครบทั้งประเทศภายในธันวาคม 2564 เผยวัคซีน 2 แสนโดสแรก ใน 13 จังหวัด พบผลข้างเคียงหลังฉีด 5 คน

ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 2 มีนาคม 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวเกี่ยวกับแนวทางการกระจายวัคซีนโควิด 19 ระบุว่า ตามแผนเดิมวางเรื่องวัคซีนไว้ 2 ระยะ ได้แก่

   ระยะแรก วัคซีนมีจำกัด ซึ่งจะเน้นฉีดในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า, บุคคลที่มีโรคประจำตัว, ผู้สูงอายุ ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป แต่ปรากฏข้อมูลว่าวัคซีน Sinovac ยังให้ผลไม่ดีเท่าที่ควรกับกลุ่มผู้สูงอายุ จึงต้องชะลอการฉีดในกลุ่มนี้ไปก่อน

         ระยะที่ 2 กรณีมีวัคซีนเพียงพอ จะเน้นฉีดบุคลากรทางการแพทย์ ที่นอกเหนือจากด่านหน้า, ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว, ผู้ที่ต้องเดินทางระหว่างประเทศ, นักการทูต และแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ซึ่งแผนการจัดหาวัคซีน นั้น ประกอบด้วย

   ●ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2564 ใช้วัคซีน Sinovac จำนวน 2 ล้านโดส ..ฉีดได้ 1ล้านคน

●ช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2564 ใช้วัคซีน AstraZeneca จำนวน 35 ล้านโดส..ฉีดได้ 17ล้านคน

ทั้งนี้ วัคซีนจำนวน 2 แสนโดสแรก ได้กระจายไปยัง 13 จังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในเดือนเมษายน จะกระจายวัคซีนจำนวน 800,000 โดส ไปกลุ่มเป้าหมาย 18 จังหวัด และในระยะที่ 2 จะมีวัคซีน 61 ล้านโดส กระจายไปทุกจังหวัด.

ขอบคุณhttps://covid-19.kapook.com/view238341
https://www.google.com/search?q=%E0%B8%A..

ภาพจาก สำนักข่าว INN

สำหรับการฉีดวัคซีนใน 2 วันแรก (28 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม) ผลการให้บริการพบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์ หลังได้รับวัคซีน 5 ราย จากจำนวนผู้รับวัคซีนขณะนี้ 3,021 คน ได้แก่ ..

ผู้มีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด 4 ราย

ผู้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน 1 ราย

โดยขณะนี้ยังไม่มีการเปิดให้บริการจองวัคซีน ฉะนั้นผู้ที่จะได้ฉีดต้องเป็นบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงฯ กำหนดเท่านั้น ซึ่งกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า จ.เชียงใหม่ พบการฉีดวัคซีนให้กับบุคคล VIP นั้น จากการตรวจสอบพบรายชื่อบุคคลกลุ่มเป้าหมายของจังหวัด 1,450 คน โดยภาพรวมวันแรกมีผู้รับวัคซีน 140 คน แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 73 คน อีก 67 คน เป็นเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่ VIP แต่เป็นบุคลากรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมโรคโควิด-19 และมีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ, ปกครอง, ทหารและตำรวจ เช่นกรณีมีทหารยศสัญญาบัตรมาฉีด เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเป็น VIP จึงไม่ตรงตามข้อเท็จจริงทั้งหมด

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชน ซึ่งทาง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ากระทรวงฯ ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา.

ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข