ตร.นำหมายศาลเข้าจับกุมลุงพล”ลุงพล”ที่บ้านพัก..ยูทูบเบอร์คนสนิทลุงพลโดนควบคุมตัวไปสอบด้วย

ตำรวจเปิดปฏิบัติการฟ้าสางกลางกกกอก นำหมายจับ บุกเข้าจับกุม “ลุงพล” ที่บ้านพักแต่เช้าตรู่ แต่ไม่พบตัว คุมยูทูบเบอร์คนสนิทขึ้นรถตู้

ความคืบหน้ากรณีที่ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับเลขที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2564 ทั้งหมด 3 ข้อหา ในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ก่อนถูกพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.

ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เลขหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ใน 3 ข้อหา คือ..

1.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร,

2.ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย,

3.กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ด้านตำรวจได้ตั้งข้อหาคือ ลุงพลได้พาน้องชมพู่ไปที่ภูเหล็กไฟแล้วทิ้งเอาไว้ จนน้องชมพู่ขาดน้ำ ขาดอาหาร ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับมาที่บ้าน จากนั้นลุงพลได้กลับไปที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง และนำร่างของน้องชมพู่ไปไว้ทียอดภูเหล็กไฟ ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งน้องชมพู่วัย 3 ขวบ ขึ้นไปเองไม่ได้ การอำพรางศพนั้น ได้มีการถอดเสื้อผ้าและรองเท้าของเด็กออก เพื่อสร้างพยานหลักฐานเหมือนฆาตกรรมอำพราง

สำหรับหลักฐานในการออกหมายจับครั้งนี้ คือหลักฐานบริเวณจุดพบศพ ได้แก่ กางเกง รองเท้า เส้นขนจำนวน 3 เส้นที่ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงเส้นผมน้องชมพู่ที่ถูกสับ 36 เส้น และคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด และผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ชี้ชัดว่ามีความเชื่อมโยงกับลุงพล

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะแถลงรายละเอียดพฤติการณ์ทางคดีอีกครั้งในวันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564

2 มิถุนายน 2564 เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชับพื้นที่บริเวณบ้าน ของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการให้ผู้ใหญ่บ้านกกกอกใช้เครื่องขยายเสียงในการเรียกนายไชย์พล วิภา ออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ..

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินเข้าไปบริเวณด้านหลังบ้านของนายไชย์พล วิภา และได้มีการเจรจากับประมาณ 10 นาที ก่อนจะเดินมาบริเวณด้านหน้าของบ้านและได้มีลูกชายของนายไชย์พล วิภา เป็นคนเปิดประตูบ้านให้

ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็ได้มีนายอนามัย และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่ของน้องชมพู่ เดินทางมาที่หน้าบ้านลุงพล โดยแม่ของน้องชมพู่ ร่ำไห้ กล่าวว่า มาดูหน้าเขา อยากมาถามว่าเขาทำจริงๆ ใช่ไหม เขาสมควรโดนจับ ตั้งแต่วันเข้าเครื่องจับเท็จแล้ว เขาทำให้คดีล่าช้า และตนรอคอยวันนี้มาตลอด 1ปี ด้าน “พ่อแบม” ชาวบ้านพยานคนนึงในคดี กล่าวว่า คืนความยุตฺิรรมให้น้องชมพู่ ตำรวจทำถูกแล้ว สำหรับลุงพล ต้องรับกรรมที่ทำไว้เอง ทำไว้อย่างไรก็ยอมรับเสีย

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็พบว่า นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ได้หลบหนีไปแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวนายอ๋อ ซึ่งเป็นยูทูบเบอร์คนสนิทของ นายไชย์พล วิภา ในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ควบคุมตัวขึ้นรถและนำตัวไปที่ สภ.กกตูม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.https://www.pohchae.com/2020/09/02/pol/