ยูทูป » “หญิงลี” แฉ “ลุงพล” พูดไม่ตรงที่เล่า น้อยใจที่ช่วย

“หญิงลี” แฉ “ลุงพล” พูดไม่ตรงที่เล่า น้อยใจที่ช่วย

6 มิถุนายน 2021
1485   0

“หญิงลี” น้อยใจ “ลุงพล” พูดไม่ตรงที่เคยเล่า ยันไม่สบายใจมานาน แฉเคยมาพักที่รีสอร์ต พร้อมเล่าความทุกข์ถึง “น้องชมพู่” ระบุ “หลานรบเร้าไปด้วย แต่ไม่ให้ไป” ถ้าเอาไปด้วยคงปลอดภัย ผิดกับคำแถลงข่าว “วันนั้นที่บอกไม่เห็นชมพู่” น้อยใจที่พยายามช่วยเหลือทุกด้าน ไม่ได้หวังผลหรือทำร้ายใคร แต่อยากระบายความในใจที่ติดค้างในใจมานาน..

5 มิ.ย.64 หญิงลี ศรีจุมพล หรือ น.ส.ธิดารัตน์ ศรีจุมพล อายุ 38 ปี นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้ออกมาระบุหลัง นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกตำรวจจับกุมในคดีเกี่ยวข้องกับน้องชมพู่ ที่ จ.มุกดาหาร ว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ลุงพลและทีมงานได้มาพักที่รีสอร์ตหญิงลี ที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมารู้จักตอนที่มีทีมงานของลุงพล มาแนะนำตัวในตอนเช้าหลังจากเข้าพักได้ 1 คืน..

จากการสอบถามทราบว่า “ลุงพล” จะเดินทางไปที่ วัดศีรษะแรด หรือวัดหงษ์ ที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “วัดพระเจ้าใหญ่” อยู่ใน ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เรื่องคำสาบาน ตอนนั้นรู้สึกชื่นชม และภูมิใจที่ ลุงพล กล้าเดินทางมาสาบานที่วัดนี้ ในเวลานั้นส่วนตัวคิดว่า “ลุงพล” อาจเป็นแพะ ตามสื่อออนไลน์ที่มีการวิจารณ์กันเป็นวงกว้าง มีความเห็นใจและอยากจะช่วยเหลือคนที่กำลังทุกข์ยากลำบาก ตามที่ตนเคยขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง มาก่อนหน้านี้ว่า “ถ้าโด่งดังมีชื่อเสียง” จะขอถวายตนเป็นคนช่วยเหลือสังคมและผู้ยากไร้ เท่าที่ทำได้ ยอมรับว่าตอนนั้น ตนลืมคิดถึงความรู้สึกของพ่อแม่น้องชมพู่..

จากนั้นได้ติดต่อหางานให้ ลุงพล มีโอกาสทำงานขึ้นเวทีร่วม แต่ไม่เคยขึ้นเวทีพร้อมกันเพราะ ลุงพล ยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในขณะนั้น ก็ได้ทำงานร่วมกันประมาณ 1 สัปดาห์ ได้ค่าตัวครั้งละประมาณ 20,000 – 40,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดี จากการสังเกตระหว่างที่ทำงานด้วยกัน ลุงพล มักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับน้องชมพู่ให้ฟัง และบางครั้งมักจะไปนั่งซึมเศร้า..

ต่อมาตนได้เห็นภาพในข่าวช่วง “ลุงพล” ระบุในข่าวว่า วันที่น้องชมพูหายไป เป็นวันที่ตนไม่เห็นหน้าน้องชมพูเลย ซึ่งเป็นคำพูดที่สวนกับความรู้สึกของตนเองทันที เพราะวันแรกที่พบกันที่รีสอร์ต “ลุงพล” เล่าให้ฟังว่า วันนั้นน้องชมพู่รบเร้าจะไปด้วย ถ้าพาหลานไป หลานคนนี้จะไม่เสียชีวิต คำพูดคำนั้นทำให้ตนติดใจ และค้างคาใจมาโดยตลอด การออกมาพูดในครั้งนี้ ตนไม่ได้หวังที่จะไปทำร้ายใครเพราะ ลุงพล ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าศาลยังไม่ตัดสิน แต่ที่พูดเพราะไม่อยากจะมีอะไรติดค้างในใจ ถ้าไม่พูดเรื่องนี้ก็จะฝังอยู่ในใจตัวเองไปตลอดชีวิต ความรู้สึกส่วนตัวก็ยังเห็นใจ ลุงพล เพราะในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร.

ที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2108701

พลาดแล้ว!!ลุงพลไม่น่ารัก ฟิวส์ขาด ทุบหลัง – ผลักอก นักข่าวช่องดัง